ทำให้คอมผู้อื่นไม่สามารถทำงานได้ PDF Print E-mail
Written by owen   
Thursday, 26 June 2008 09:55

ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินห้าปี

หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท

หรือทั้งจําทั้งปรับ

 

การกระทําเพื่อให้การทํางานของระบบคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นไม่สามารถทํางาน ตามปกติได้

มาตรา ๑๐ ผู้ใดกระทําด้วยประการใดโดยมิชอบ เพื่อให้การทํางานของระบบคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นถูกระงับชะลอ ขัดขวาง หรือรบกวน

จนไม่สามารถทํางานตามปกติได้ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกินห้าปี

หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาท หรือทั้งจําทั้งปรับ

ความผิดตามมาตรา ๑๐ นี้ มีวัตถุประสงค์และองค์ประกอบความผิดคล้ายคลึง กับมาตรา ๙

เพียงแต่เปลี่ยนวัตถุแห่งการถูกกระทําจาก  “ข้อมูลคอมพิวเตอร์”  เป็น  “ระบบคอมพิวเตอร์” มีองค์ประกอบความผิด คือ

(๑)  กระทําด้วยประการใดโดยมิชอบ

(๒)  มีเจตนาพิเศษเพื่อให้การทํางานของระบบคอมพิวเตอร์ของผู้อื่นถูกระงับ ชะลอ ขัดขวาง หรือรบกวน จนไม่สามารถทํางานตามปกติได้

มีข้อสังเกตว่า องค์ประกอบความผิดข้อที่ (๑) นั้นเป็นเรื่องการกระทําใดๆ ก็ได ซึ่งกินความหมายกว้างขวางมาก

กฎหมายฉบับนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับอาชญากรรมคอมพิวเตอร์  ดังนั้นจึงควรหมายถึงการเข้าไปทํากับระบบคอมพิวเตอร์เท่านั้นหรือไม่

๑๕

หรือจะหมายถึงการกระทําทางกายภาพอื่นๆ เช่น การระเบิด การวินาศกรรม

เพื่อให้มีผลทําลายการทํางานของระบบคอมพิวเตอร์ด้วย เท่าที่มีการอภิปรายกันในที่ประชุม

ของคณะกรรมาธิการเป็นไปในแนวทางเดียวกันที่จะใหขยายรวมถึงการกระทําทางกายภาพ (physical)

ที่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับระบบคอมพิวเตอร์ด้วย

ส่วนองค์ประกอบความผิดข้อที่ (๒) มุ่งถึงเจตนาพิเศษของผู้กระทําเป็นสําคัญ

จึงต้องพิจารณาจากข้อเท็จจริงที่ผู้กระทําได้กระทําไปเพื่อค้นหาเจตนาพิเศษดังกล่าวตามหลัก “กรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา

ส่วนถ้อยคําที่ว่า “จนไม่สามารถทํางานตามปกติได้”  ย่อมหมายความว่า ระบบคอมพิวเตอร์นั้นไม่สามารถทํางานได้โดยสมบูรณ์

ดังนั้นถึงแม้ว่าระบบคอมพิวเตอร์จะทํางานไดแต่เป็นการทํางานที่ไม่สมบูรณ์ หรือผิดปกติไป (Malfunctioning) 

ก็ย่อมอยู่ในความหมายของถ้อยคําอันเป็นองค์ประกอบความผิดนี้แล้ว

ตัวอย่างของการกระทําความผิดตามมาตรานี้  อาทิเช่น การป้อนโปรแกรมที่ทําให้ระบบคอมพิวเตอร์ปฏิเสธการทํางาน (denial of service) 

หรือทําให้ระบบคอมพิวเตอร์ทํางานได้ช้าลงโดยการป้อนไวรัสคอมพิวเตอร์เพื่อให้เกิดผลชะลอการทํางานของระบบเป็นต้น

อย่างไรก็ตามหากผู้กระทําได้กระทําไปโดยมีอํานาจหรือสิทธิโดยชอบย่อมไม่เป็นความผิดเพราะไม่เข้าองค์ประกอบความผิดที่ว่า

“โดยมิชอบ” ดังเช่น การทดสอบหรือรักษาความมั่นคงเพื่อความปลอดภัยของระบบคอมพิวเตอร์ 

โดยบุคคลผู้ได้รับมอบอํานาจจากผู้เป็นเจ้าของระบบคอมพิวเตอร์ (owner)   หรือผู้ปฏิบัติการ (operator)  

หรือการปรับแก้ระบบปฏิบัติการ (operating  system)

ของคอมพิวเตอร์โดยผู้ปฏิบัติการ (operator)  ก่อนติดตั้งซอฟต์แวร์ใหม่ๆ

ตัวอย่างเช่น  การติดตั้งซอฟต์แวร์เพื่อการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต

ซึ่งจะมีผลให้ระบบคอมพิวเตอร์ทํางานไม่เป็นปกติทั้งก่อนและหลังการติดตั้งโปรแกรม

 

 

Last Updated ( Wednesday, 23 July 2008 10:04 )